บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมสูบ กลายเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายคนหันมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเลิกบุหรี่แบบดั้งเดิม หรือเป็นทางเลือกที่ “ปลอดภัยกว่า” แต่บุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยจริงหรือไม่? บทความนี้มุ่งนำเสนอคำแนะนำในการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย ก่อนตัดสินใจใช้ พอตไฟฟ้า สิ่งสำคัญคือศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน บทความนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสมสำหรับทุกคน
ทำความรู้จัก บุหรี่ไฟฟ้าพร้อมสูบ
บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์สูบบุหรี่ที่ใช้กลไกไฟฟ้าในการทำให้เกิดความร้อนและไอน้ำ แทนการเผาไหม้เหมือนบุหรี่ธรรมดา ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆ คือ
- แบตเตอรี่
- ตัวทำให้เกิดไอและความร้อน (Atomizer)
- น้ำยา
น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ประกอบด้วยสารหลัก 3 ชนิด ดังนี้
- นิโคติน สารเสพติดที่พบในทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ธรรมดา
- โพรไพลีนไกลคอล สารประกอบในสารสำหรับการทำให้เกิดไอ
- กลีเซอรีน สารเพิ่มความชื้น
บุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิกบุหรี่ธรรมดาได้หรือไม่?
งานวิจัยบางชิ้นบอกว่าช่วยลดการสูบบุหรี่ธรรมดาได้ แต่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ถูกต้อง มีอคติ ผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะมักมีข้อจำกัด ดังนี้
- ขนาดตัวอย่างเล็ก งานวิจัยบางชิ้นมีจำนวนผู้เข้าร่วมน้อย ไม่เพียงพอที่จะสรุปผล
- ระยะเวลาสั้น งานวิจัยบางชิ้นติดตามผลผู้เข้าร่วมระยะเวลาสั้น ไม่เพียงพอที่จะสรุปผลในระยะยาว
- วิธีการวิจัยไม่เหมาะสม งานวิจัยบางชิ้นมีวิธีการวิจัยที่ไม่เหมาะสม เช่น ไม่มีกลุ่มควบคุม หรือมีปัจจัยรบกวนอื่น ๆ
- ผลประโยชน์ทับซ้อน งานวิจัยบางชิ้นได้รับทุนสนับสนุนจากบริษัทบุหรี่ไฟฟ้า
ตัวอย่างงานวิจัยที่อ้างว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิกบุหรี่ธรรมดาได้
- E-cigarette use and smoking cessation in a community sample of adult smokers งานวิจัยชิ้นนี้ตีพิมพ์ในปี 2014 พบว่าผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีโอกาสเลิกบุหรี่ธรรมดาได้มากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ไฟฟ้า
- A randomized trial of e-cigarettes for smoking cessation งานวิจัยชิ้นนี้ตีพิมพ์ในปี 2015 พบว่าผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีโอกาสเลิกบุหรี่ธรรมดาได้มากกว่าผู้ที่ใช้ยาสูบชนิดอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยเหล่านี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนักวิชาการหลายท่าน ว่ามีข้อจำกัดดังที่กล่าวมาข้างต้น
เลือกซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ร้านขายพอต ใกล้ฉัน ที่ปลอดภัย
การเลือกซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ซึ่ง ร้านขายพอต ใกล้ฉัน ก็เป็นตัวเลือกแรกๆที่คุณตามหา หากท่านตัดสินใจที่จะซื้อ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
1. เลือกซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบรีวิวของร้านค้าจากลูกค้าอื่น ๆ เลือกร้านค้าที่แหล่งจำหน่ายหรือมีหน้าร้านชัดเจน
2. ตรวจสอบรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ ตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์เป็นของแท้ ตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์มีใบรับรองมาตรฐานความปลอดภัย ตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์มีคู่มือการใช้งานภาษาไทย
3. เลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เลือกแบรนด์ที่มีประวัติการผลิตบุหรี่ไฟฟ้ามานาน เลือกแบรนด์ที่มีการรับประกันสินค้า เลือกแบรนด์ที่มีอะไหล่และอุปกรณ์เสริม readily available
ข้อควรระวัง ไม่ควรซื้อบุหรี่ไฟฟ้าจากแหล่งที่มาที่ไม่น่าเชื่อถือ ไม่ควรซื้อบุหรี่ไฟฟ้าราคาถูกมากจนเกินไป ไม่ควรซื้อบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่มีฉลากและข้อมูลผลิตภัณฑ์ชัดเจน และไม่ควรซื้อบุหรี่ไฟฟ้าจากผู้ขายที่ไม่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้
เตรียมตัวก่อนสูบบุหรี่ไฟฟ้า
ก่อนใช้งานบุหรี่ไฟฟ้า ควรเตรียมตัวดังนี้
1. ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม ตรวจสอบระดับแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ ชาร์จแบตเตอรี่ด้วยอะแดปเตอร์ที่เหมาะสม ชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มก่อนใช้งาน
2. เติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าให้พอดี ตรวจสอบปริมาณน้ำยาในแทงค์ เติมน้ำยาให้พอดีตามระดับที่แนะนำ หลีกเลี่ยงการเติมน้ำยาจนล้น ปิดฝาแทงค์ให้สนิท
3. ตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์ ตรวจสอบว่าอุปกรณ์อยู่ในสภาพดี ตรวจสอบว่าไม่มีรอยแตกหรือรอยบุบ ตรวจสอบว่าไม่มีชิ้นส่วนใด ๆ หลุดลอย ตรวจสอบว่าหัวอะตอมอยู่ในสภาพดี ตรวจสอบว่าขดลวดอยู่ในสภาพดี
ข้อควรระวัง ไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่จนเกินเวลา ไม่ควรเติมน้ำยาจนล้น ไม่ควรใช้งานอุปกรณ์ที่ชำรุด ไม่ควรสูบบุหรี่ไฟฟ้าในขณะชาร์จแบตเตอรี่ ไม่ควรสูบบุหรี่ไฟฟ้าในที่ที่มีอากาศร้อนหรือเย็นจัด และไม่ควรสูบบุหรี่ไฟฟ้าในบริเวณที่มีสารไวไฟ
เทคนิคการสูบที่ปลอดภัย
การสูบบุหรี่ไฟฟ้า หากท่านยังตัดสินใจที่จะสูบ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
1. สูบอย่างช้า ๆ และสม่ำเสมอ ไม่ควรสูบเร็วหรือแรงเกินไป ดูดไอระเหยเข้าปอดช้า ๆ และสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการสูบแบบจ๊วบ ๆ
2. อย่าสูบติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรเว้นระยะห่างระหว่างการสูบแต่ละครั้ง ไม่ควรสูบติดต่อกันเกิน 5 นาที ควรหยุดสูบหากรู้สึกแสบร้อนหรือเจ็บคอ
3. สังเกตสัญญาณของร่างกาย หยุดสูบหากรู้สึกเวียนหัว คลื่นไส้ หรือหายใจลำบาก หยุดสูบหากรู้สึกใจสั่นหรือวิตกกังวล และหยุดสูบหากรู้สึกเจ็บหน้าอกหรือหายใจลำบาก
ข้อควรระวัง ไม่ควรสูบ บุหรี่ไฟฟ้า ในที่สาธารณะ ไม่ควรสูบบุหรี่ไฟฟ้าใกล้เด็กหรือสัตว์เลี้ยง ไม่ควรสูบบุหรี่ไฟฟ้าขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร และไม่ควรสูบบุหรี่ไฟฟ้าหากมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคปอด หรือโรคเบาหวาน
การดูแลรักษาบุหรี่ไฟฟ้า
การดูแลรักษาบุหรี่ไฟฟ้า อย่างถูกต้อง จะช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ และทำให้การใช้งานปลอดภัยยิ่งขึ้น ดังนี้
1. ทำความสะอาดอุปกรณ์เป็นประจำ
ถอดชิ้นส่วนอุปกรณ์ออกจากกัน เช่น แทงค์น้ำยา คอยล์ หัวอะตอม และแบตเตอรี่ ทำความสะอาดแต่ละชิ้นส่วนด้วยสำลีชุบน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสมกับอุปกรณ์ ห้ามใช้น้ำหรือสารเคมีอื่น ๆ ในการทำความสะอาด เป่าลมไล่น้ำออกให้หมด ประกอบอุปกรณ์กลับเข้าที่เดิม
ความถี่ในการทำความสะอาด:
- แทงค์น้ำยา ควรทำความสะอาดทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำยาใหม่
- คอยล์ ควรทำความสะอาด 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง หรือเมื่อเริ่มมีรสไหม้หรือไอระเหยน้อยลง
- หัวอะตอม ควรทำความสะอาด 1-2 เดือนต่อครั้ง หรือเมื่อเริ่มมีรอยรั่วหรือชำรุด
- แบตเตอรี่ ควรเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าแห้งเมื่อสกปรก
2. เก็บรักษาอุปกรณ์อย่างถูกวิธี
เก็บอุปกรณ์ในที่แห้งและเย็น อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ที่ 10-25 องศาเซลเซียส เก็บอุปกรณ์ให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง เก็บอุปกรณ์ในกล่องหรือเคส และห้ามเก็บอุปกรณ์ใกล้กับแหล่งความร้อนหรือแสงแดดโดยตรง
3. เปลี่ยนอุปกรณ์เมื่อเสื่อมสภาพ
คอยล์ควรเปลี่ยนคอยล์เมื่อเริ่มมีรสไหม้หรือไอระเหยน้อยลง หัวอะตอมควรเปลี่ยนหัวอะตอมเมื่อเริ่มมีรอยรั่วหรือชำรุด และแบตเตอรี่ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อเริ่มเสื่อมสภาพ หรือเมื่อใช้งานมานาน 2-3 ปี
ข้อควรระวัง ห้ามแช่อุปกรณ์ในน้ำ ห้ามทำให้อุปกรณ์ตกกระแทก ห้ามใช้อุปกรณ์ที่ชำรุดสรุป บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย สะดวกและปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน ผู้ใช้ควรมีความรู้และเข้าใจวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง ควรเลือกซื้ออุปกรณ์จากร้านค้าที่น่าเชื่อถือและใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีคุณภาพ