รักตัวเอง ให้สิ่งที่ดีกับตัวเองด้วย Kardinal Stick พอต close system
การสูบบุหรี่มวนธรรมดาในปัจจุบันนั้น ไม่ได้ดูดีเหมือนอย่างที่เมื่อก่อน เพราะด้วยทัศนคติของคนที่ค่อยๆ เปลี่ยนไป และปรับตัวตามยุคสมัยมากขึ้น โดยการสูบบุหรี่มวนถือเป็นการทำลายสุขภาพทั้งต่อตัวผู้สูบเอง และคนรอบข้าง คนใกล้ชิด การเปลี่ยนมาเลือกสูบบุหรี่ไฟฟ้า จึงเป็นการทดแทนได้ในแบบที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้มากกว่า สำหรับแบรนด์ Kardinal Stick เอง ถือเป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้าในประเภทการใช้งานแบบพอตไฟฟ้าระบบปิดที่เน้นถึงหลักการทำงานที่ดีต่อสุขภาพ และยังให้สัมผัสฟีล สูบพอต ได้แบบเต็มอิ่มมากที่สุด
พอต close system Kardinal Stick มาแรงที่สุดในตอนนี้
พอตไฟฟ้าระบบปิด Kardinal Stick ใช้หลักการทำงานด้วยแบตเตอรี่เป็นตัวทำความร้อนและดึงเอาน้ำยาพอตทำการควบแน่นจนเกิดเป็นไอควันระเหย ซึ่งไอควันระเหยเหล่านี้มีอนุภาคเล็กละเอียดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยต่อร่างกายมากกว่า เมื่อสูบใช้งาน ผู้สูบเองก็จะรู้สึกถึงนิโคตินเร็วมากยิ่งขึ้น เอื้อประโยชน์ให้ลดจำนวนครั้งในการสูบลงได้แบบไม่รู้ตัว เป็นผลดีต่อผู้ที่อยู่ในระหว่างควบคุมจำนวนครั้งการใช้งาน เพื่อนำไปสู่หนทางที่เลิกสูบบุหรี่ได้ในที่สุดด้วย การใช้งานพอตไฟฟ้าอย่าง Kardinal Stick ก็ไม่ยุ่งยาก ไม่จำเป็นต้องดูแลรักษาวุ่นวายเหมือนกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเภทการใช้งานอื่นๆ ไม่ต้องมีสวิทช์เปิด-ปิด แค่เพียงเสียบหัวน้ำยาพอตเข้ากับตัวพอตก็สามารถใช้งานได้ทันที ตัวพอตมีแบตเตอรี่ถึง 450 mAh ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันอย่างไม่มีสะดุด หากต้องการชาร์จจะมีสายชาร์จแบบ USB Type-C ที่รองรับกระแสไฟฟ้าได้ดี และรวดเร็ว ใช้เวลาในการชาร์จเพียง 30-40 นาทีเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องชาร์จตัวพอตทิ้งไว้ข้ามคืน เพราะอาจจะยิ่งทำให้แบตเตอรี่เสื่อมอายุการใช้งานเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ดีไซน์รูปทรงมีขนาดกะทัดรัด น้ำหนัก สะดวกและง่ายต่อการพกพาด้วยเช่นกัน ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียบุคลิกภาพ หรือภาพลักษณ์ของตนเอง เพราะไอควันระเหยไม่มีกลิ่นเหม็นไหม้ กลิ่นไม่พึงประสงค์ ติดตามเสื้อผ้า เนื้อตัว เส้นผมซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการสูบบุหรี่มวนธรรมดาที่ทำให้หลายคนเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันไม่น้อยอีกด้วย
สรุป
อย่างไรก็ตามการเลือกซื้อพอตไฟฟ้า KS ดีๆ มีคุณภาพซักเครื่องไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง หรือราคาสูงเกินไป ควรคำนึงถึงความต้องการของตัวผู้ใช้งานเองเป็นหลัก อีกทั้งดูถึงมาตรฐานในการผลิต ความปลอดภัยในการใช้งาน และแบรนด์ผู้ผลิตสินค้า ว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด รวมถึงการรับประกันสินค้า การให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย เมื่อหากเกิดปัญหาในการใช้งานจะสามารถติดต่อสอบถาม ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างทันเวลา ถือเป็นอีกหนึ่งความมั่นใจที่ผู้ใช้งานหลายท่านต้องการนั่นเอง
