คู่มือฉบับเริ่มใช้งานกับ Kardinal Stick
สำหรับไอเทมของคนยุคใหม่ต้องหนีไม่พ้น พอตไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นประเภทการใช้งานอย่างหนึ่งของบุหรี่ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เรียกได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จัก ทำให้หลายๆ คนที่กำลังมีความคิดกำลังต้องการเปลี่ยนจากการสูบบุหรี่มวนธรรมดาที่ทำร้ายสุขภาพร่างกายเป็นการสูบพอตไฟฟ้าที่ดี และประหยัดเงินค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้มากขึ้นอีกหลายเท่าตัว หนึ่งในแบรนด์ผู้ผลิตพอตไฟฟ้าชั้นนำ อย่าง Kardinal Stick พอตไฟฟ้ามาตรฐานระดับสากล ปัจจุบันมีจำหน่ายไปทั่วโลกมากกว่า 60 ประเทศ สามารถมั่นใจได้ถึงคุณภาพ และมีความปลอดภัยในการใช้งานสูง แต่สำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้งานมาก่อน อาจจะยังไม่ทราบ และไม่คุ้นชิน รวมถึงมีข้อสงสัยต่างๆ ว่า จะใช้งานอย่างไร หาซื้อได้ที่ไหน หรือมีราคาแพงหรือไม่ เพราะความจริงแล้ว Kardinalstick หรือ KS นั้น ถือเป็น พอตไฟฟ้าราคาถูก หาซื้อได้ง่ายรวมถึงข้อสังเกตเล็กๆ ที่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังคิดจะเริ่มเปลี่ยนมาใช้งานพอตไฟฟ้า และหาซื้อในประเภทที่เหมาะสมเข้ากันกับสไตล์การใช้งานของตนเองอีกด้วย
Kardinal Stick ชื่อนี้ การันตีคุณภาพ ตัวจริง เสียงจริง
เมื่อเริ่มต้นหาต้องการใช้งานพอตไฟฟ้าซักตัว ควรมองจากแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ และสามารถวางใจได้ถึงคุณภาพ และความปลอดภัยในการใช้งาน เป็นสิ่งแรกที่ผู้ใช้งานควรให้ความสำคัญอย่างมาก ต่อมาคือ เรื่องของสไตล์การใช้งานของแต่ละคน เพราะบางท่านอาจจะต้องการใช้พอตไฟฟ้าเพื่อที่จะเลิกสูบ หรือ ลดปริมาณการสูบใช้งานลง หรือบางท่านอาจต้องการความแปลกใหม่ไม่ซ้ำซากเหมือนกับการสูบบุหรี่แบบเดิม ก็ได้เช่นกัน โดยพอตไฟฟ้าแบรนด์ KS นั้น มีอยู่หลักๆ ดังนี้
- KS kurve
สำหรับพอตไฟฟ้าที่เรียกได้ว่าเป็นตัวเด่น รุ่นดังของแบรนด์ เพราะเป็นพอตไฟฟ้าแบบที่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไร้ที่ติ โดยปัจจุบัน Kurve นั้น มีทั้งรุ่นแรก และ kurve 2 ที่เป็นรุ่นล่าสุด อีกทั้งยังมี Kurve lite ซึ่งเป็นน้องเล็กของตระกูล kurve แต่สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีติดขัด ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่นำมาผลิตใช้เฉพาะกับรุ่น ทั้งซิปเซ็ทใหม่ล่าสุด ที่สามารถตอบสนองความเร็วด้วยอัตราสูงสุดความไว 0.008 วินาที และใช้เทคโนโลยีอย่างการหล่อเซรามิคขึ้นรูปแบบเฉพาะใน KS ที่ไม่มีแบรนด์ใดลอกเลียนแบบได้ มีความหนามากกว่า 4 ชั้น ทำให้การทำความร้อน เสถียรมากกว่าเดิม ส่งผลให้ฟีลสูบนั้น สมูทในทุกๆ สัมผัสการใช้งานอีกด้วย
ทั้งนี้ แต่ละรุ่นนั้น ก็จะแตกต่างกันเพียงบางจุด หลักๆ เช่น Kurve 1 และ Kurve 2 นั้น จะแตกต่างกันเพียงลูกเล่นของตัวพอต อย่างการแสดงสัญญาณไฟแจ้งเตือน และระบบออโต้ล็อคที่มีเพิ่มเข้ามาใน kurve2 และสีสันของตัวพอตบางสี นอกนั้น ส่วนใหญ่แล้วค่อนข้างคล้ายคลึงกันแทบทั้งหมด ส่วน KS lite ทั้งรุ่น 1 และ รุ่น 2 นั้น จะแตกต่างที่สัญญาณไฟเช่นกัน รวมถึงบอดี้ตัวพอตนั้น จะมีสีสันและวัสดุการผลิตที่ต่างกันเล็กน้อย แต่หากสำหรับ kurve และ kurve lite นั้น จะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดคือ ทั้งกำลังของแบตเตอรี่ ขนาดของตัวพอต รวมถึงการรับประกันที่ต่างกัน แต่ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็น ks kurve รุ่นใด ก็ยังคงสามารถใช้งานด้วยหัวน้ำยาพอตเดียวกันได้คือ kurve pod เพราะหัวน้ำยานั้นได้ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ทำให้สามารถเข้ากันกับตัวพอตได้หลายรุ่น และไม่มีปัญหาในการใช้งานอีกด้วย
- KS Quik
เป็นอีกหนึ่งรุ่นการผลิตจากแบรนด์ Kardinalstick โดยสำหรับ Quik นั้น เป็นประเภทการใช้งานแบบ พอตไฟฟ้าใช้แล้วทิ้ง ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก เป็น พอตไฟฟ้าขนาดเล็ก และมียอดขายพุ่งแรงแซงโค้งมากกว่าหลายๆ รุ่นของแบรนด์ โดยปัจจุบันรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือ Quik 5000 puff และ Quik 2000 puff ซึ่งมีราคาประหยัดและจุดเด่นสำคัญคือ ใช้งานสะดวกและง่ายต่อการพกพาด้วย แค่เพียงแกะซอง ฉีก ก็สามารถสูบได้ทันที ทั้งนี้ไม่ต้องกังวลว่ากำลังจ่ายไฟของตัวพอตจะไม่เพียงพอ เพราะถึงจะเป็นพอตแบบใช้แล้วทิ้ง ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ตัวพอตได้เช่นกัน โดยใช้สายชาร์จแบบ USB Type C เหมือนกับ kurve แต่สำหรับความแตกต่างในเรื่องของฟีลสูบนั้น Quik นั้น จะมีกลิ่นและรสชาติที่เข้มข้นกว่า kurve แต่ทั้งนี้ ความเย็นจะไม่เท่า kurve หากเป็นผู้ที่ไม่เน้นการสูบบุหรี่จัด หรือเน้นนิโคตินในปริมาณมาก และชอบความแปลกใหม่ของกลิ่นและรสชาติ Quik นั้น มีให้เลือกได้หลากหลายกว่า มีทั้งโทนกลิ่นร้อน โทนกลิ่นเย็น และยังมีรสชาติแปลกๆ ไม่ซ้ำใครด้วย
Kardinal Stick ไม่ว่ารุ่นไหนก็ถูกใจไปหมด
พอตไฟฟ้าที่มีมาตรฐานในท้องตลาดที่มีจำหน่ายในปัจจุบันนั้น มีไม่มาก หลักๆ ที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่รู้จักก็จะมี KS , Relx , Infy , Marbo , Jues ซึ่ง ผู้ใช้งานสามารถเลือกซื้อ เลือกหาได้ตามสไตล์การใช้งานของแต่ละคน โดยทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือ ควรเลือกซื้อจากตัวแทนผู้จำหน่ายที่มีความน่าเชื่อถือด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันการโดนหลอกลวงจากกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจแฝงตัวอยู่ด้วย รวมถึงรายละเอียดของสินค้า และการรับประกันสินค้าต่างๆ เพื่อจะได้ไม่เป็นการเสียเวลาในภายหลัง อีกทั้งสามารถสอบถามโปรโมชั่นต่างๆ ที่ทางตัวแทนผู้จัดจำหน่ายมักจะจัดตามช่วงเวลา เพื่อเป็นการคืนกำไรให้กับผู้ใช้งานด้วยเช่นกัน
