หนักแน่น แต่ไม่หนักคอ อิ่มกว่า สบายกว่ากับ Kardinal Stick
สำหรับพอตไฟฟ้าตัวเด็ดของผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ แต่เลือกสิ่งที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น อย่างการเปลี่ยนจากการสูบบุหรี่มวนธรรมดา มาเป็นการเลือกใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าแทน โดยเลือกแบรนด์คุณภาพที่มีชื่อเสียงได้มาตรฐานในระดับโลกอย่าง Kardinal Stick ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มผุ้ที่เลือกใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าในประเภทพอตไฟฟ้าระบบปิดไม่น้อย ด้วยสไตล์ในการให้สัมผัสของนิโคตินที่เป็นจุดเด่นของ Kardinal Stick แบบเต็มอิ่น เน้นๆ แน่นๆ แต่ไม่แสบคอ ไม่แทงคอ แต่กลับสบายคอ และลึกล้ำยิ่งกว่าเคยด้วย
สบายกว่ากับ Kardinal Stick พอตไฟฟ้าระบบปิด
การทำงานของพอตไฟฟ้าระบบปิดอย่าง Kardinal Stick ใช้แบตเตอรี่เป็นตัวทำความร้อนและควบแน่นกับน้ำยาพอตจนเกิดเป็นไอควันระเหย และไอควันเหล่านี้จะมีอนุภาคที่เล็กละเอียดทำให้ซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้รวดเร็ว เมื่อสูบตามปกติ ผู้สูบเองจะรู้สึกได้ถึงนิโคตินแบบเต็มอิ่มแบบเน้นๆ แน่นๆ รู้สึกได้แบบอิ่มๆ เต็มคำ แต่ไม่แสบคอ ระคายคอ เพราะเนื่องจากไม่ได้เกิดจากการเผาไหม้ ตัวน้ำยาพอตของ Kardinal Stick เอง เป็น น้ำยาพอต Salt Nicotine เข้มข้น และเป็นในหนึ่งหัวน้ำยาพอตของ Kardinal Stick จะมีปริมาณที่ 2 มิลลิลิตร และมีส่วนประกอบของนิโคตินประมาณ 3%-5% แล้วแต่กลิ่นของน้ำยาพอตที่เลือกใช้งาน อีกทั้งน้ำยาพอตหนึ่งหัวสามารถใช้งานได้ประมาณ 350-500 สูบ เฉลี่ยหนึ่งหัวพอตจะใช้งานได้ประมาณ 1 เดือน แต่หากสูบประจำบ่อยครั้งหรือแทบจะทั้งวันหนึ่งหัวพอตอาจจะใช้งานได้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ แต่ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคลด้วย นอกเหนือจากนี้ดีไซน์รูปทรงของ Kardinal Stick เองก็สวยงามทันสมัยไม่เหมือนใคร ตัวฐานเป็นทรงเหลี่ยมสามารถวางตั้งกับพื้นราบได้ น้ำหนักเบา มีขนาดเล็กกะทัดรัด ใช้งานก็ง่ายไม่ยุ่งยาก และยังมีฟังก์ชั่นเสริมที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการเตือนแบตเตอรี่ใกล้หมด ด้วยสัญญาณไฟกระพริบสีแดงที่กลางสัญลักษณ์เครื่อง เพื่อแจ้งเตือนให้กับผู้ใช้งาน หรือแม้แต่ฟังก์ชั่นเสริมของเป็นตัวช่วยของผู้ที่ควบคุมปริมาณของนิโคตินเข้าสู่ร่างกายในแต่ละวัน อย่างระบบสั่นเตือน หากใช้งานติดต่อกันเกินกว่า 12 ครั้ง ภายในระยะเวลา 5 นาที อีกด้วย
สรุป
อย่างไรก็ตาม วิธีเลือกพอตไฟฟ้า นั้น เมื่อเริ่มต้นผู้ใช้งานเอง อาจจำเป็นต้องลองผิดลองถูกอยู่ซักหน่อย เพราะกว่าจะหากบุหรี่ไฟฟ้าแบบที่เหมาะและเข้ากันกับสไตล์การใช้งานของตนเองนั้น ก็อาจจะต้องทดลองกันบ้าง แต่ทั้งนี้ควรเลือกจากแบรนด์ผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงเพื่อเป็นการการันตีคุณภาพในเบื้องต้น ไม่จำเป็นต้องซื้อของราคาแพง แต่ก็ไม่ควรมีราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดเกินไป เพราะอาจถูกดัดแปลงจากวัสดุการผลิตที่มีคุณภาพต่ำ และอาจเกิดอันตรายในขณะใช้งานและส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวก็เป็นได้ด้วย